ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก 2009

JoomlaDay Bangkok 2009!!

วันนี้ชม JoomlaDay Bangkok 2009 ดูแล้ว Joomla 1.6 มีอะไรน่าเล่นเยอะเลยทีเดียว วิทยากรที่มาบรรยายดีมากครับ ราคาค่าร่วมสัมนากับทีมงานก็ค่อนข้างลงตัวครับ ได้เสื้อไปใส่กันด้วย ส่วนผมก็ได้แต่ติดตามดูอยู่ที่ live.fukduk.tv ครับ ที่สำคัญคือทีมงานทำงานด้วยใจจริงๆ ครับ จัดงานด้วยงบเพียงแค่นี้ ต้องขอขอบคุณทีมงาน Marvelic กันทุกคนและขอบคุณทีมงานทั้งหมดรวมถึงมหาวิทยาลัยศรีปทุมด้วยครับ ที่ทำให้ได้อะไรจากงานนี้เยอะแยะเลย ผมก็แอบสนใจเขียน extension นะเนี่ย (ฮา) เห็นมีว่าจะ upload slide ในเว็บ ก็ไว้ไปโหลดกันได้นะครับ ที่ http://www.joomladay.in.th/ รวมถึง community ในไทย joomla.or.th

Alfresco กับ XForm

XForm นั้นเป็น Specification ที่น่าจะกลายเป็นมาตรฐานในอนาคตเนื่องจากเว็บต่างจำเป็นต้องใช้ Form ในการติดต่อกับผู้ใช้เป็นส่วนใหญ่ ส่วนตัว implement นั้นมีหลายตัวด้วยกันไว้ผมจะเอามาบอกในบทความต่อๆ ไป แต่คราวนี้เรามาดูใน Alfresco กันครับ ใน Version 3.2 นั้น Alfresco ได้เลือก Chiba ในเป็น Engine ในการจัดการกับ XForm ครับ แต่ก็นั่นแหละครับทำให้เราจำเป็นต้องลง virtual tomcat สำหรับรัน WCM (virtual tomcat คือ tomcat อีกตัวไว้สำหรับทำหน้าที่ติดต่อกับ user โดยทั่วไป หรือเรียกว่าเอาไว้เป็นหน้าด่านว่าเอกสารอะไรที่เราต้องการเผยแพร่เราก็สามารถ publish ไปยัง WCM ได้) ตอนนี้ orbeon (เป็น XForm engine อีกตัว) สามารถทำการเชื่อมต่อกับ Alfresco ได้แล้วต่อไปถ้าเราจะสร้าง XForm คงง่ายขึ้นเป็นกองเพราะ orbeon เป็น XForm server ที่ไว้สร้าง Form แบบ virtual เลย(ลากแปะๆ แนะนำให้ลองเข้าไปเล่น demo ของ orbeon ดูครับ น่าเล่นมาก) แต่ตัวนี้ผมยังไม่ได้ลองทำดูนะครับ พอดีค้นหาเจอเลยนำมาลง blog ไว้ก่อน ไว้ถ้าทดสอบแล้วได้ความว่าอย่างไรจะมารายงานอีกรอบ

Alfresco กับการ Search ภาษาไทย

เนื่องด้วยการ Search ถือเป็นหัวใจสำคัญของงาน ECM เลยก็ว่าได้ แต่ Alfresco ณ ปัจจุบันยังไม่รองรับการ Search ด้วยภาษาไทย แต่อย่างว่า Opensource เมื่อเรารู้ว่ามันใช้ Lucene เป็น engine ในการค้นหาเอกสาร เราก็เลยแงะไปยังตัว lucene เองพบว่ามีคนส่ง Patch ในการตัดคำไทย ไปให้กับ lucene เรียบร้อยแล้ว โดยคุณสัมพันธ์นั่นเอง วิธีการ Config ให้ Alfresco ตัดคำไทยได้ผมสรุปออกมาเป็นขั้นตอนได้ดังนี้ครับ ไปเพิ่ม Locale ให้ Alfresco รู้จัก ใน tomcat/shared/classes/alfresco/extension/web-client-config-custom.xml ตรง tag <languages> เพิ่ม <language locale="th_TH">Thai</language> เข้าไป directory: tomcat/webapps/alfresco/WEB-INF/classes/alfresco/model แล้วทำการ copy file dataTypeAnalyzers_fr.properties หรือไฟล์อื่นก็ได้ เปลี่ยนชื่อเป็น dataTypeAnalyzers_th.properties แล้วเปิดไฟล์ขึ้นมาแก้ไขให้เป็น d_dictionary.datatype.d_text.analyzer=org.apache.lucene.analysis.th.ThaiAnalyzer d_dictionary.datatype.d_content.analyzer=org.apache.lucene.analysis.th.ThaiAnalyzer หลังจากนั้นเมื่อทำการ

หนังสือ Opensource แจกฟรี Gimp และ Blender

แจกหนังสือ Ebook เล่มใหม่ฟรี สนับสนุนโดย Sipa จัดทำโดยบริษัท Success Media ครับ Gimp เป็นโปรแกรมไว้ตกแต่งรูปสามารถใช้ทดแทน Photoshop ได้ Blender 3D เป็นโปรแกรมที่ไว้สำหรับสร้าง Model 3D เทียบได้กับ 3DS Max ครับ โหลดหนังสือทั้งสองเล่มได้จากลิงค์ข้างล่างเลยครับ สร้างงานกราฟิกละตกแต่งภาพอย่างไร้ขีดจำกัดด้วย GIMP คู่มือการใช้งาน Blender 3D

เรื่องวุ่นๆ ของ HTML 5.0

เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า HTML 5.0 นั้นยังอยู่ในช่วงการตกลง และฉบับปัจจุบันก็ยังเป็น Draft อยู่ เมื่อมี tag พิเศษที่ทุกคนรอคอยกันมาคือ <video> เข้ามา ทำให้มีปัญหาเรื่องของ codecs โดยต่างฝ่ายต่างเห็นไม่ลงลอยกันเท่าไรนัก โดย Mozilla ว่าจะใช้ ogg เนื่องจากมันฟรีและไม่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องลิขสิทธิ์แต่เรื่องคุณภาพก็ไม่ค่อยดีนัก ส่วน Google และ Apple ว่าน่าจะใช้ H.264 ซึ่งเป็นของบริษัท On2 แต่ Google ก็ไม่ว่าอะไรถ้าจะใช้ Ogg และในไม่กี่วันนี้เอง Google ก็ได้เข้าซื้อบริษัท On2 ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า video tag จะถูกนำมาใช้ด้วย Codecs H.264 แต่ปัญหาก็ยังไม่วายเมื่อผู้ถือหุ้นบริษัท On2 ไม่พอใจกับราคาหุ้นที่ Google ซื้อไป แล้ว HTML5 จะได้ฤกษ์เมื่อไหร่เนี่ย

Vim vs Emacs on Ubuntu Linux

เพิ่งรู้วันนี้เองว่า Vim บน Ubuntu นั้นมันยังไม่พร้อมสำหรับการเขียนโปรแกรม เราจำเป็นต้องทำการลงมันใหม่ก่อนด้วยคำสั่งที่แสนจะเคยชิน sudo apt-get install vim พอดีกำลังจะเลือก ide บน linux ไว้หัดเขียนภาษาซีใน linux ยังลังเลระหว่าง vim กับ emacs เห็นว่ามีสงครามระหว่าง editor สองเจ้านี้ด้วยข้อดีข้อเสียของ แต่ละตัวคือ Vim เป็นแบบ modes คือต้องเลือกว่าจะอยู่ในโหมดแก้ไขหรือว่าโหมดปกติ โหมดแก้ไขก็ได้แก่ i, a, bla bla blah โหลดปกติก็คือกด Esc ออกมา ข้อดีเร็ว ( สมัยตอนที่ยังเป็น Vi นะครับ) ข้อเสียคือสับสนว่าตอนนี้อยู่ในโหมดไหน Emacs เป็นแบบ modeless ถ้าใครนึกภาพไม่ออกก็พวกโปรแกรมแบบ GUI ทั่วไปก็เป็นแบบ modeless เสียเป็นส่วนใหญ่เช่น MS Word คือเราสามารถพิมพ์ข้อความลงไปได้เลย เมื่อต้องการจะใช้คำสั่งอะไรก็กด Ctrl+ เอาแทน ข้อดีคือไม่สับสนว่าอยู่ในโหมดไหน ข้อเสียคือเมื่อต้องการผสมคำสั่งเยอะๆ จะจำได้ไม่หมดเช่น C-x C-c อันนี้แค่คำสั่งเดียวแต่ต้องกดทั้ง Ctrl+x กับ Ctrl+c ถึงจะออกจากโหมดได้

รำคาญ Ads ใน hi5 มั้ย?

พอดีวันนี้เข้าไปใน hi5 ผ่าน IE เจอรูปนี้มันขึ้นหราอยู่ นั่นหมายถึงว่า model ทาง ธุรกิจของ hi5 ได้ต้องการให้คุณจ่ายเงินเพื่อขจัดความรำคาญเหล่านั้น แต่เพียงแต่ผมเลือกที่จะขจัดความรำคาญด้วยวิธีอื่น นั่นคือลง Firefox แล้วลง Extension (Add-on) ไปที่ Tools > Add-ons ถ้าเป็นภาษาไทยคิดว่าน่าจะเป็น เครื่องมือ > ส่วนเสริม อะไรประมาณนี้ ไปที่ Get Add-ons (Tab อันแรกน่ะครับ ไม่แน่ใจเวอร์ชั่นภาษาไทยใช้คำว่าไร) แล้ว search คำว่า "adblock" แล้วเลือกไปที่ Adblock Plus ครับหลังจากนั้นกดปุ่ม install ได้เลย ต่อไปเราก็จะไม่มีโฆษณามาให้รบกวนอีกแล้ว ไม่ว่าจะเว็บ hi5 หรือเว็บอื่นๆ ก็ตาม

Alfresco from source

การติดตั้ง Alfresco นั้นมีหลายวิธีด้วยกัน ผมขอแยกเป็นสามกรณีดังนี้ ติดตั้งจากตัว Installer ซึ่งวิธีนี้ถือว่าสะดวกที่สุดครับ เนื่องจากตัว Alfresco นั้นเตรียมเครื่องมือที่จำเป็นไว้ให้เกือบหมดแล้ว (บน Windows นี่ถือว่าพร้อมกับการทำงานทีเดียว ส่วนบน Unix จะต้องติดตั้ง MySQL ,Swf2PDF ImageMagick และ OOo - OpenOffice เองครับ เนื่องจากไม่สามารถรันได้แบบวินโดว์) ติดตั้งจากตัว Compiled Binary ซึ่งจะเป็นไฟล์ zip หรือ tarball ตามแต่ระบบปฏิบัติการ วิธีสุดท้ายเป็นวิธีที่ผมจะนำเสนอในตอนนี้คือการ Compile Source จาก SVN ครับ สองวิธีสุดท้ายนี้เราจำเป็นต้องหาพวก binary ของ third party มาลงเอง (แต่สำหรับ linux ไม่ว่าจะวิธีไหนเราก็ต้องหามาลงเองครับ) เราสามารถ Check out Source จาก repository จาก Alfresco ได้หลายวิธีไม่ว่าจะ Check out จาก Eclipse โดยผ่าน Subclipse หรือ Netbeans หรือแม้กระทั่ง SVN command line ก็สามารถทำได้ ในที่นี้ผมจะขอเลือกใช้แบบ Command line ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกที่สุด เพราะมีมาให้กับ linux อยู่แล้วหรือหากใครใช้ Windows อยู่ ผมขอแนะนำให้ติดตั้ง SlikSVN 1.5.x เนื่องจากขั้นตอน build นั้นจำ

ติดตั้ง SVN Server บน CentOS (ตอนหนึ่ง)

SVN หรือ Versioning Control ซึ่งจะสะดวกมาในการทำงานเป็นทีมและสามารถเลือกได้ว่าเราจะอัพเดตไปยัง Revision ไหน(เวอร์ชั่นไหน) โดยหลักๆ เราจะแบ่งโครงการออกเป็นสามส่วนคือ trunk branch และ tags โดยแต่ละส่วนจะมีการกำหนดดังนี้ Trunk เป็นส่วน Core ของโปรเจ็ค หรือเรียกง่ายๆ ว่าอะไรที่ Stable แล้วเราจะใส่ไว้ในส่วนนี้ Branch เป็นส่วนที่เป็น Feature ที่เราจะทำการเพิ่มเติมขึ้นมา ส่วนใหญ่เมื่อผ่านพ้นช่วงทดสอบต่างๆ และเป็นที่ยอมรับของทีมแล้ว เราก็จะนำเข้าไปไว้ใน Trunk Tags จะเป็นตัวแบ่งเวอร์ชั่นออกจากกันเช่นเมื่อเราออกเวอร์ชั่น Stable แล้วเราก็จะ copy มาใส่ไว้ใน Tags เพื่อที่จะได้มีหลายเวอร์ชั่นให้ผู้พัฒนาได้เลือก เริ่มการติดตั้ง SVN Server บน CentOS กันดีกว่าครับ ใช้เครื่องมือที่เราคุ้นเคยกันดี yum install httpd chkconfig httpd on ซึ่ง chkconfig จะทำให้ตัว httpd server เริ่มต้นอัตโนมัติเมื่อเริ่มระบบ หลังจากนั้นทำการแก้ไขไฟล์ httpd.conf vim /etc/httpd/conf/httpd.conf แก้ไขตามความต้องการหากต้องการเปลี่ยน Port ก็เปลี่ยนได้เลยครับ หลังจากนั้นทำการแก้ไขไฟล์ subversion.conf vim /etc/httpd/conf.d/subversion

Alfresco Community Edition 3.2

เพิ่งออกมาได้ไม่นานกับ v. 3.2 ครับ ก่อนหน้านี้ลองเล่นแบบ Preview มาก็ถือว่าดีครับ ปรับเปลี่ยนโครงสร้างจาก 3.0 Stable พอสมควร ส่วนที่แตกต่างออกไปจากเดิมคือ รองรับการเข้าใช้งานผ่านมือถือมากขึ้น สามารถเข้าได้จากทาง http:// :8080/mobile/p ครับ ปรับปรุงการทำงานของ Document Management และทำงานเกี่ยวกับ Email ให้ดีขึ้น สนับสนุน CMIS version 0.61 Specification Draft คือ Protocol ที่ทำงานผ่าน Web Service เป็นส่วนใหญ่ครับ เอาไว้สำหรับแลกเปลี่ยนเอกสารกันได้ มีหลายตัวที่เข้าร่วมครับ อาทิเช่น Joomla, Alfresco, SharePoint ซึ่งแต่ละเจ้าถือว่าไม่ธรรมดาเลยครับ และนอกจากนี้ยังสามารถติดต่อกับ IMAP ได้อีกด้วย ทำให้สามารถเก็บ Email เข้า Repository ของ Alfresco ได้ง่ายยิ่งขึ้น และยังสามารถทำ Full Text search ได้อีกด้วย มีการใช้ alfresco-globals.properties เข้ามาใช้งานแทนการ config แยกไฟล์แบบเดิม ซึ่งจุดนี้เองต้องยกความดีความงามให้ Spring Framework ครับ มีระบบ Form แบบใหม่ที่ใช้งานง่ายขึ้น ปรับปรุง Alfresco Share ให้ดียิ่งขึ้น เทียบชั้นกับ SharePoint ได้ดีขึ้น สามารถดู Features ของ Alfresco Share 3.2 ได้ตา

Alfresco ECM

ความแตกต่างของ ECM(Enterprise Content Management) กับ CMS(Content Management System) อาจดูแล้วคล้ายๆ กัน แต่มันแตกต่างกันอย่างไร ตัว CMS นั้นมีไว้สำหรับจัดการ Content ที่เหมาะกับการแสดงให้เห็นแบบ Public ส่วน ECM นั้นจะเน้นการใช้งานเกี่ยวกับการจัดการเอกสารภายในองค์กร โดยที่เราก็สามารถแสดงให้บุคคลนอกเห็นได้ด้วยเช่นกัน Alfresco เป็น ECM ตัวนึงที่ผมกำลังศึกษาอยู่ โดยตัวผู้บริหารนั้นเป็นคนเดียวกับที่เป็นผู้บริหารของ Documentum เพราะฉะนั้นการันตีได้ว่า Alfresco นั้นสามารถใช้งานในองค์กรได้อย่างดี และข้อดีอีกอย่างของ Alfresco คือเป็น Opensource ครับ เนื่องจากเปิด Source ทำให้เราสามารถแก้ไขฟังก์ชั่นการทำงานต่างๆ ได้ดี ตัวระบบของ Alfresco นั้นพัฒนามาจาก Spring และ JSF เป็นหลัง โดยสนับสนุน RESTful หรือ Web Service เป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้เรายังสามารถเขียน JavaScript เพื่อทำงานแบบ RESTful ได้อีกตัว โดยตัว JavaScript นั้นรันอยู่บน Rhino Runtime ซึ่งเป็น Engine ของ JavaScript บนฝั่ง Server การ Config ส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปของ XML เพราะเป็นส่วนการประกาศ Bean ของ Spring นั่นเอง ทำให้เราสามารถทำการ Override

What web browser implemented HTML 5.0

แม้ว่า HTML 5.0 นั้นจะยังอยู่ระหว่างการร่าง Specification กันอยู่ แต่ Feature หลักๆ หลายอย่าง ก็ถูกนำไป implement แล้วใน Web browser หลายๆ ยี่ห้อ ผมจะขอยกตัวอย่าง Web browser ที่ได้นำ HTML 5.0 ไป implement บ้างแล้วนะครับ Opera 9.2+ Safari 3.1 support Data Storage API และ tags Internet Explorer 8 (IE8) Firefox 3 และอาจมีตัวอื่นนอกเหนือจากนี้ครับ เท่าที่ผมทราบหามาได้แค่นี้ :) คิดว่า Chrome น่าจะได้เช่นกันครับ Update : พอดีไปเจอลิงค์ที่เอาไว้เปรียบเทียบว่า Feature ไหนที่ใคร Support แล้ว ไม่ใช่แค่ HTML 5 นะครับ แต่สามารถเทียบ Feature อื่นๆ ได้ด้วย แต่ถ้าใครต้องการแค่ HTML 5 ตามลิงค์ได้เลยครับ HTML 5.0 Test ถ้าต้องการตัวอื่นด้วยก็ Web Browser Test

Hello Facebook! My First Facebook Application Yeah!!

ตอนนี้เรามาเขียน facebook app กันครับ เหตุผลที่ผมสนใจ facebook app มี User จำนวนมากอยู่แล้ว สามารถประชาสัมพันธ์องค์กรได้ดี เมื่อมี User มากเพราะฉะนั้นรายได้(ที่คาดว่าจะได้) ก็มากตาม แต่ก่อนจะเขียนสิ่งที่เราต้องมีคือ Hosting ครับ ที่สนับสนุนภาษา PHP จริงๆ สามารถใช้ภาษาอื่นๆ ได้ด้วย แต่เนื่องจาก Hosting ในไทยนั้นส่วนใหญ่มีแต่ภาษา PHP งั้นก็เลือก PHP แล้วกัน สำหรับคนที่สนใจภาษาอื่นสามารถเลือก API ในภาษาต่างๆ ได้เลยครับตามลิงค์ Facebook Platform Client Libraries มีให้เลือกมากมาย หรือใครที่ยังไม่มี Host สามารถทดสอบ Console ของ Facebook เบื้องต้นได้ที่ Facebook Developer Tools หลังจากได้ Host เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนแรกให้สมัครเปิดการใช้งาน application developer ของ facebook ก่อนครับ เมื่อเข้าไปในลิงค์นี้แล้วให้ตอบยอมรับ หรือ "Allow" ครับ หลังจากนั้นเราก็จะสามารถสร้าง Facebook Application ได้แล้ว โดยการสร้าง Application นี้ให้กดไปที่ Set up new application ตามรูปได้ เลยครับ เมื่อเข้ามาในสร้าง Application แล้วให้กรอกข้อมูลที่จำเป็นลงไป หลังจากนั้นเราก็จะได้หน้าตาออกมาประมาณนี้คร

เริ่มต้นสู่ Enterprise Content Management

Enterprise Content Management (ECM) คืออะไร?      ECM นั้นมีความหมายกว้าง แต่โดยรวมๆ แล้วเป็นระบบที่มีไว้เผื่อจัดการเกี่ยวกับเอกสาร งานสารบรรณออกไลน์ การสแกนไฟล์มาเพื่อเก็บเป็นข้อมูล ซึ่ง ECM นั้นจะเก็บไฟล์ไว้เป็นแบบ Unstructure Data แต่เราสามารถแบ่งมันออกจากกันด้วยการระบุ Meta Data ให้มันได้ และมีระบบ Workflow ช่วยในการจัดการเอกสารเหล่านี้ ซึ่งระบบ ECM ที่เรารู้จักกันดีอย่างเช่น Microsoft SharePoint หรือทางฝั่ง Oracle เองก็มีผลิตภัณฑ์ ECM ของตัวเองเช่นกัน ภายหลังหลายๆ บริษัทเริ่มเห็นว่าตลาดของ ECM นั่นน่าสนใจจึงทำให้มีบริษัทต่างๆ เข้ามาร่วมวงกันมากขึ้น และยังมี Software opensource อีกหลายตัวเข้าร่วมด้วย เช่น WebGUI , Alfresco , Sensenet 6.0 , eZ Publish, KnowledgeTree , Jumper 2.0 , Nuxeo , Plone ซึ่งถือว่าตลาดของ ECM นั้นค่อนข้างน่าสนใจทีเดียว หากต้องการข้อมูล ECM ติดตามได้จาก wikipedia จากลิงค์ข้างบนจะทำให้ท่านเห็นภาพมากยิ่งขึ้นครับ

สิ่งที่คุณควรรู้ใน HTML 5.0

     ในขณะที่หลายๆ คนกำลังปวดหัวกับการแก้ไขเว็บให้สามารถแสดงผลให้ถูกต้องบน IE 6 ได้นั้น และในขณะเดียวกันวงการ Web Standard ก็กำลังสร้างสิ่งใหม่ๆ มาให้วงการพัฒนาเว็บได้เล่น นั้นคือ HTML 5.0 ส่วน Features ต่างๆ ผมแนะนำให้อ่านในเว็บของ w3.org html 5.0 spec เอานะครับ ทำไม HTML 5 ถึงสำคัญ      สิ่งที่ทำให้ HTML 5.0 แตกต่างไปจากเดิมคือความเป็น Schematic Web มากขึ้น โดยคำว่า Schematic Web นั้นจะหมายถึงการที่เว็บสามารถให้ความหมายได้ในตัวของมันเอง ซึ่งประโยชน์ตรงนี้เองเราสามารถนำค่าต่างๆ ที่อยู่ใน tag ต่างๆ ของ HTML 5.0 มาใช้งานได้อย่างง่ายดาย หรือที่เราเรียกว่า Web Scraping หรือ Web harvesting ตามแต่ใครจะเรียก ทำให้ลดการเรียกใช้ Web Service API ลง เพราะตัว HTML 5.0 นั้นสามารถเป็น Data ได้อยู่ในตัวแล้วนั่นเอง อะไรคือเบื้องหลังของ HTML 5.0      จาก draft ใน link ข้างบน จะพบว่าสิ่งที่ทำให้ HTML 5.0 สามารถทำงานได้คือ การใช้ Scripting API นั่นเอง และด้วยความสามารถนี้ทำให้เราสามารถกำหนด Element Tag ต่างๆ ได้ตามใจชอบ Features ที่น่าสนใจใน HTML 5.0      ผมเชื่อว่าหลายๆ คนคงได้ลง Firefox 3.

PHP 5.3 released!

PHP 5.3 ได้ถูกปล่อยออกมาให้ยลโฉมกันได้สักพักแล้ว สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ Syntax ใหม่ มี Closures ซึ่งเป็น Feature ที่ภาษา Dynamic รุ่นใหม่มีกัน Namespaces คงรู้จักกันดี ไว้จัดกลุ่มของคลาสให้เป็นระเบียบและแยกคลาสที่มีชื่อเหมือนกัน เพื่อป้องกันการสับสน ในการใช้งาน Extension ใหม่ phar และ fileinfo Garbage Collection ทำให้ภาษา PHP นั้นเทียบเคียงกับภาษาสคริปต์ใหม่ๆ ได้สูสีมากขึ้น มีคำสั่ง GOTO และจากแหล่งอื่นนอกเหนือจากที่มายังรายงานว่า PHP 5.3.0 นั้นทำงานได้เร็วขึ้น 20-30% เลยทีเดียว ใครเป็นแฟน PHP ก็โหลดกันมาลองได้เลยครับที่เว็บ PHP Official Site