ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

TricksterOnline on Linux

เมื่อวานลองลง trickster ใน linux ดู ปรากฏว่าลงได้ผ่านหมด
แต่ sv มันยังไม่เปิดไม่รู้จะเล่นได้หรือเปล่า
วิธีลงก็ใช้ wine ได้เลย แต่ตอนแรกต้องลง gecko engine ก่อน
มันคืออะไร? มันเอาไว้ render หน้า webpage น่ะเอง มันเอามาใช้แทน mshtml น่ะ
เพราะเราเล่นในลินุกซ์กันใช่มั้ย มันเลยใช้ gecko แทน
แต่ตอนลงไปเรียบร้อยแล้ว จะมาดูว่ามันเล่นได้มั้ยโดยเริ่มโหลด patch ก่อน ปรากฏว่ามันดับไปเลย(บางคนอาจไม่เป็นนะ ถ้าใครเป็นแนะนำให้ไปเปิด wine iexplore http://seven5econds.blogspot.com ดู) :P

รูปก่อนมันจะดับ


เพราะมันไม่โหลด gecko engine เลยไม่รู้ทำไง เลยไปปรึกษากะ google กะ ubuntuforums.org
และก็ได้ไปเจอกับฟอรั่มอันนี้ http://www.linux-gamers.net/modules/newbb/viewtopic.php?topic_id=2646&start=10
พออ่านไปงงอีก - -'

แล้วเจออีกอัน http://appdb.winehq.org/appview.php?iVersionId=1554
บอกให้แก้ registry
โดยพิมพ์ที่ shell ว่า wine regedit
แล้วเปลี่ยนค่าของ register
[HKEY_CURRENT_USER\Software\Wine\MSHTML]
"GeckoUrl"="z:\tmp\wine_gecko.cab"

โอเคเรียบร้อย ค่อยเก็ทหน่อย (ตามไปอ่านกันด้วยนะ เดี๋ยวงง)
อีกวิธีคือ wine iexplore [url]
แล้วมันจะขึ้นมาถามว่าให้โหลด gecko engine หรือเปล่าตอบตกลง(install)ไปครับ
พอลงเสร็จแล้วลองรัน trickster ใหม่มันจะไม่ดับแล้ว

ใช้ได้แล้ว โย่ว

ต่อไปโหลด patch ละ


เข้าเกมส์แต่ยังไม่ได้เล่นเพราะมันยังไม่เปิด



วิธีลงเกมส์ก็ให้ไปที่ลงตัวเซ็ทอัพไว้ เช่น cd /home/username แล้วใช้คำสั่ง
wine trickstercb.exe //ตัว install ของ close beta จ้า แล้ว

ถ้าอยากให้มันอ่านออกด้วยนี่รู้สึกว่าจะต้องเอา font (เห็นบางเว็บเค้าเอา Tahoma นะ ไม่รู้เหมือนกันใครลองแล้วได้ผลยังงัยบอกกันมั่งนะ)จาก c:/windows/fonts(อันนี้ขโมยมาจากวินโดว์นะ --' ไม่ต้องหาใน linux) มาใส่ไว้ใน
/home/username/.wine/drive_c/windows/fonts
โดย username นั้นแทนชื่อของเราเองที่ใช้ login เข้า linux
เพียงแค่นี้ก็ install เสร็จเรียบร้อยแล้วจ้า

อันนี้รูป Warcraft III ไม่เคยเล่นเหมือนกัน อยากลองเล่นแต่เล่นไม่เป็น เศร้า
อยากเล่นดอทเอกะเค้ามั่ง

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หมดหวังกับรายการทีวีในประเทศไทย

ไม่ได้เขียน Blog มานานสกิลด้านเขียนไม่รู้จะยังดีเหมือนเดิมมั้ยนะครับ (หัวข้อก็จะ clickbait  ตามแนว Content ยุคใหม่) จริงๆ แล้ว คิดจะเขียนมาตั้งนานแล้วแต่ไม่รู้จะเขียนอะไร พอดีวันนี้อ่านเจอโพสต์ของเพื่อนในเฟสบุ๊คที่แชร์มา หัวข้อประมาณว่า ประเทศไทยมีความพยายามทำให้คนโง่ลง คือผมก็ติดตามข่าวมาเรื่อยๆ ช่วงไปอยู่จีนก็ยังติดตามอยู่ แต่มีความรู้สึกว่าข่าวของประเทศเรากับประเทศจีนนี่คือคนละขั้วเลย ที่จีนข่าวส่วนใหญ่จะเป็นข่าวที่ค่อนข้างมีสาระ และไม่มีข่าวงมงาย น่าจะเนื่องมาจากกฎหมายของประเทศไทยที่ค่อนข้างคุมเข้มกับสื่อ ย้อนกลับมาที่ไทย ประเทศเราไม่มีกฎหมายคุมเข้มสื่อเหมือนประเทศจีนขนาดนั้น สื่อประเทศเราค่อนข้างมีอิสระในการนำเสนอ แต่หลังๆ มานี่ผมเห็นแต่ข่าวอาชญากรรม หรือข่าวให้หวยซะส่วนใหญ่ ก็เข้าใจว่าต้องการยอดผู้ชม แต่การที่สื่อนำเสนอแบบนั้นนี่ไม่แน่ใจว่าจะดีต่ออนาคตประเทศชาติหรือไม่นะครับ คนดูข่าวเพื่อจะรอเลขเอาไปซื้อหวย ไม่แน่ใจว่าสนใจอะไรมากกว่าระหว่างหวยกับข่าว ตอนจะมีกฎหมายหวยออนไลน์ก็เห็นออกมาต่อต้านบอกมอมเมาประชาชน แต่สิ่งที่สื่อกำลังนำเสนออยู่นั้นมันย้อนแย้งในตัวเองชอบกล...

Alfresco กับการ Search ภาษาไทย

เนื่องด้วยการ Search ถือเป็นหัวใจสำคัญของงาน ECM เลยก็ว่าได้ แต่ Alfresco ณ ปัจจุบันยังไม่รองรับการ Search ด้วยภาษาไทย แต่อย่างว่า Opensource เมื่อเรารู้ว่ามันใช้ Lucene เป็น engine ในการค้นหาเอกสาร เราก็เลยแงะไปยังตัว lucene เองพบว่ามีคนส่ง Patch ในการตัดคำไทย ไปให้กับ lucene เรียบร้อยแล้ว โดยคุณสัมพันธ์นั่นเอง วิธีการ Config ให้ Alfresco ตัดคำไทยได้ผมสรุปออกมาเป็นขั้นตอนได้ดังนี้ครับ ไปเพิ่ม Locale ให้ Alfresco รู้จัก ใน tomcat/shared/classes/alfresco/extension/web-client-config-custom.xml ตรง tag <languages> เพิ่ม <language locale="th_TH">Thai</language> เข้าไป directory: tomcat/webapps/alfresco/WEB-INF/classes/alfresco/model แล้วทำการ copy file dataTypeAnalyzers_fr.properties หรือไฟล์อื่นก็ได้ เปลี่ยนชื่อเป็น dataTypeAnalyzers_th.properties แล้วเปิดไฟล์ขึ้นมาแก้ไขให้เป็น d_dictionary.datatype.d_text.analyzer=org.apache.lucene.analysis.th.ThaiAnalyzer d_dictionary.datatype.d_content.analyzer=org.apache.lucene.analysis.th.ThaiAnalyzer หลังจากนั้นเมื่อทำการ...

เปลี่ยนเว็บเดิมให้ Pluggable ด้วย OSGi

เป็นบทความภาษาอังกฤษครับลองอ่านดู เปลี่ยน Web application เดิมให้ยืดหยุ่นด้วย OSGi เพิ่มเติ่มให้ครับ OSGi คืออะไร เป็น Specification ครับที่เจ้าใหญ่ของ Java เค้าทำมาเพื่อให้เกิดความเป็น modularized ครับ ซึ่งถ้าจะให้เห็นภาพคือการทำงานของ plugin น่ะครับ ที่เราสามารถเปิดปิดการทำงานของมันได้ตลอดเวลาเมื่อเอามาใส่ web application ก็ทำให้เราสามารถถอดหรือเสียบ plugin ใหม่ๆ ได้ตลอดเวลา โดยที่ plugin นี้ใน OSGi จะเรียกว่า module ครับ หรือถ้าเป็นศัพท์เทคนิคเค้าจะเรียกว่า Bundle ครับ ลองไปอ่านบทความกันดูครับ ซึ่ง OSGi นั้นจริงๆ แล้วมันเป็น Specification เหมือนกับ EJB หรือ Servlet นี่แหละครับ แต่ตัว implement นั้นแล้วแต่ว่าใครจะนำไป implement นะครับ ที่ดังๆ อยู่ในตอนนี้ก็เห็นมีอยู่สองสามเจ้า Equinox อันนี้หลายๆ คนคงจะคุ้นเคยกันดีมันคือเจ้า eclipse ของเรานั่นเองใช้ตัวนี้อยู่ครับ ส่วนอีกตัวเป็นของ Apache Felix ครับ ลักษณะการใช้งานจะแตกต่างกันบาง และตัว module อาจจะเรียกไม่เหมือนกันบางอันเป็น Bundle บางอันอาจไม่ใช่ ผมก็จำไม่ได้แล้วเหมือนกันครับ ลองไปศึกษากันดูครับ น่าสนใจทีเดียว อีกตัวนั้นจะเป็นของ Sp...