ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์ที่มีป้ายกำกับ How to

Shell In a Box - Shell on Web Interface

shellinabox เป็นโปรแกรมที่ทำให้เราสามารถใช้ shell หรือ terminal ผ่านเว็บได้ ซึ่งจะคล้ายๆ กับ WebShell (WebShell นั้นพัฒนาต่อยอดมาจาก Ajaxterm ) แต่ shellinabox เป็นตัวที่อยู่ใน wiki ของ Ubuntu วันนี้เลยขอสอนการติดตั้งตัวนี้ครับ และเขียนไว้เป็นบันทึกกันลืมไปในตัว ขั้นแรกให้ดาวน์โหลดตัว shellinabox ของ platform ที่เราใช้อยู่ ในหน้า Download นำไปไว้ใน home folder หรือตำแหน่งที่ต้องการ หลังจากนั้นให้พิมพ์ sudo dpkg -i shellinabox_2.10-1_i386.deb เนื่องจากผมใช้ Ubuntu หารใครใช้ Redhat base ก็ทำตาม RPM เอานะครับ หลังจากนั้นให้เรา start server shellinabox ขึ้นมา ด้วยคำสั่ง sudo /etc/init.d/shellinabox start หรือ sudo invoke-rc.d shellinabox start ซึ่งเมื่อรันแล้ว shell in a box นี่จะรันอยู่บน port 4200 ด้วย protocol HTTPS ครับ ให้เราเปิด Browser ขึ้นมาแล้วเข้าไปที่ https://<ip เครื่องที่เราติดตั้ง>:4200 ก็จะขึ้นหน้าตาดังรูปครับ หน้า login ที่เข้าจาก Shell In a Box

Alfresco from source

การติดตั้ง Alfresco นั้นมีหลายวิธีด้วยกัน ผมขอแยกเป็นสามกรณีดังนี้ ติดตั้งจากตัว Installer ซึ่งวิธีนี้ถือว่าสะดวกที่สุดครับ เนื่องจากตัว Alfresco นั้นเตรียมเครื่องมือที่จำเป็นไว้ให้เกือบหมดแล้ว (บน Windows นี่ถือว่าพร้อมกับการทำงานทีเดียว ส่วนบน Unix จะต้องติดตั้ง MySQL ,Swf2PDF ImageMagick และ OOo - OpenOffice เองครับ เนื่องจากไม่สามารถรันได้แบบวินโดว์) ติดตั้งจากตัว Compiled Binary ซึ่งจะเป็นไฟล์ zip หรือ tarball ตามแต่ระบบปฏิบัติการ วิธีสุดท้ายเป็นวิธีที่ผมจะนำเสนอในตอนนี้คือการ Compile Source จาก SVN ครับ สองวิธีสุดท้ายนี้เราจำเป็นต้องหาพวก binary ของ third party มาลงเอง (แต่สำหรับ linux ไม่ว่าจะวิธีไหนเราก็ต้องหามาลงเองครับ) เราสามารถ Check out Source จาก repository จาก Alfresco ได้หลายวิธีไม่ว่าจะ Check out จาก Eclipse โดยผ่าน Subclipse หรือ Netbeans หรือแม้กระทั่ง SVN command line ก็สามารถทำได้ ในที่นี้ผมจะขอเลือกใช้แบบ Command line ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกที่สุด เพราะมีมาให้กับ linux อยู่แล้วหรือหากใครใช้ Windows อยู่ ผมขอแนะนำให้ติดตั้ง SlikSVN 1.5.x เนื่องจากขั้นตอน build นั้นจำ...

ติดตั้ง SVN Server บน CentOS (ตอนหนึ่ง)

SVN หรือ Versioning Control ซึ่งจะสะดวกมาในการทำงานเป็นทีมและสามารถเลือกได้ว่าเราจะอัพเดตไปยัง Revision ไหน(เวอร์ชั่นไหน) โดยหลักๆ เราจะแบ่งโครงการออกเป็นสามส่วนคือ trunk branch และ tags โดยแต่ละส่วนจะมีการกำหนดดังนี้ Trunk เป็นส่วน Core ของโปรเจ็ค หรือเรียกง่ายๆ ว่าอะไรที่ Stable แล้วเราจะใส่ไว้ในส่วนนี้ Branch เป็นส่วนที่เป็น Feature ที่เราจะทำการเพิ่มเติมขึ้นมา ส่วนใหญ่เมื่อผ่านพ้นช่วงทดสอบต่างๆ และเป็นที่ยอมรับของทีมแล้ว เราก็จะนำเข้าไปไว้ใน Trunk Tags จะเป็นตัวแบ่งเวอร์ชั่นออกจากกันเช่นเมื่อเราออกเวอร์ชั่น Stable แล้วเราก็จะ copy มาใส่ไว้ใน Tags เพื่อที่จะได้มีหลายเวอร์ชั่นให้ผู้พัฒนาได้เลือก เริ่มการติดตั้ง SVN Server บน CentOS กันดีกว่าครับ ใช้เครื่องมือที่เราคุ้นเคยกันดี yum install httpd chkconfig httpd on ซึ่ง chkconfig จะทำให้ตัว httpd server เริ่มต้นอัตโนมัติเมื่อเริ่มระบบ หลังจากนั้นทำการแก้ไขไฟล์ httpd.conf vim /etc/httpd/conf/httpd.conf แก้ไขตามความต้องการหากต้องการเปลี่ยน Port ก็เปลี่ยนได้เลยครับ หลังจากนั้นทำการแก้ไขไฟล์ subversion.conf vim /etc/httpd/conf.d/subversion...