ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์ที่มีป้ายกำกับ Linux

Enable Skype icon on Unity notification panel on Ubuntu 13.04

Due to I switch back from Windows to Ubuntu. The most important program for me is " Skype ". After I download installation from Skype official website it seems there is no problem at all I am able to installed in by Ubuntu Software Center. The problem  was occurring after I launch Skype and close the main window opens I expect it will be closed and shown the icon on notification panel area. But there is no icon on notification area then I launch Skype application again the windows instance comes up thus I try to log in again, suddenly I get an error message about another instance was already running. After I search on google a bit I found that Ubuntu 13.04 was removed system tray whitelist feature from its unity. so I found this website to re-enable the whitelist by below instruction. sudo add-apt-repository ppa:timekiller/unity-systrayfix sudo apt-get update sudo apt-get upgrade After finished installation I do the following steps to add Skype to notification whitelis...

Compact your eclipse 4.x interface and make it looks better in Ubuntu 13.04

It has been a long time I haven't used Ubuntu since it has some issues about my laptop driver. Yesterday I decided to format and install Ubuntu 13.04. It seems everything work well with a little bit effort to fix some driver problems. Therefore I am as Java developer I cannot avoid to use eclipse as my default IDE (personal preference) but after I installed Eclipse Kepler (4.3). There is an ugly theme with weird gradient, let say it looks worse than in Windows, so I search for the solution, eventually I got one solution that we need to change the theme in eclipse back to "Classic" theme (Window->Preferences->General->Appearance) in my opinion it looks better than in . Another problem is eclipse layout is not compact as in Windows nor as same as former version (3.x). The solution to fix this is create a file .gtkrc-2.0 in your home directory with the following content . style "gtkcompact" { GtkButton::default_border={0,0,0,0} GtkButton::default_...

Shell In a Box - Shell on Web Interface

shellinabox เป็นโปรแกรมที่ทำให้เราสามารถใช้ shell หรือ terminal ผ่านเว็บได้ ซึ่งจะคล้ายๆ กับ WebShell (WebShell นั้นพัฒนาต่อยอดมาจาก Ajaxterm ) แต่ shellinabox เป็นตัวที่อยู่ใน wiki ของ Ubuntu วันนี้เลยขอสอนการติดตั้งตัวนี้ครับ และเขียนไว้เป็นบันทึกกันลืมไปในตัว ขั้นแรกให้ดาวน์โหลดตัว shellinabox ของ platform ที่เราใช้อยู่ ในหน้า Download นำไปไว้ใน home folder หรือตำแหน่งที่ต้องการ หลังจากนั้นให้พิมพ์ sudo dpkg -i shellinabox_2.10-1_i386.deb เนื่องจากผมใช้ Ubuntu หารใครใช้ Redhat base ก็ทำตาม RPM เอานะครับ หลังจากนั้นให้เรา start server shellinabox ขึ้นมา ด้วยคำสั่ง sudo /etc/init.d/shellinabox start หรือ sudo invoke-rc.d shellinabox start ซึ่งเมื่อรันแล้ว shell in a box นี่จะรันอยู่บน port 4200 ด้วย protocol HTTPS ครับ ให้เราเปิด Browser ขึ้นมาแล้วเข้าไปที่ https://<ip เครื่องที่เราติดตั้ง>:4200 ก็จะขึ้นหน้าตาดังรูปครับ หน้า login ที่เข้าจาก Shell In a Box

Ubuntu 10.04 Lucid Lynx มาแล้วครับ

สามารถดู features ได้ที่ Take The Ubuntu Tour Preview (ไม่ใช่ Review นะครับ) ภาษาไทย ดูได้จาก Blognone โหลดได้ที่ Ubuntu Download หรือ mirror ku

Vim vs Emacs on Ubuntu Linux

เพิ่งรู้วันนี้เองว่า Vim บน Ubuntu นั้นมันยังไม่พร้อมสำหรับการเขียนโปรแกรม เราจำเป็นต้องทำการลงมันใหม่ก่อนด้วยคำสั่งที่แสนจะเคยชิน sudo apt-get install vim พอดีกำลังจะเลือก ide บน linux ไว้หัดเขียนภาษาซีใน linux ยังลังเลระหว่าง vim กับ emacs เห็นว่ามีสงครามระหว่าง editor สองเจ้านี้ด้วยข้อดีข้อเสียของ แต่ละตัวคือ Vim เป็นแบบ modes คือต้องเลือกว่าจะอยู่ในโหมดแก้ไขหรือว่าโหมดปกติ โหมดแก้ไขก็ได้แก่ i, a, bla bla blah โหลดปกติก็คือกด Esc ออกมา ข้อดีเร็ว ( สมัยตอนที่ยังเป็น Vi นะครับ) ข้อเสียคือสับสนว่าตอนนี้อยู่ในโหมดไหน Emacs เป็นแบบ modeless ถ้าใครนึกภาพไม่ออกก็พวกโปรแกรมแบบ GUI ทั่วไปก็เป็นแบบ modeless เสียเป็นส่วนใหญ่เช่น MS Word คือเราสามารถพิมพ์ข้อความลงไปได้เลย เมื่อต้องการจะใช้คำสั่งอะไรก็กด Ctrl+ เอาแทน ข้อดีคือไม่สับสนว่าอยู่ในโหมดไหน ข้อเสียคือเมื่อต้องการผสมคำสั่งเยอะๆ จะจำได้ไม่หมดเช่น C-x C-c อันนี้แค่คำสั่งเดียวแต่ต้องกดทั้ง Ctrl+x กับ Ctrl+c ถึงจะออกจากโหมดได้

ติดตั้ง SVN Server บน CentOS (ตอนหนึ่ง)

SVN หรือ Versioning Control ซึ่งจะสะดวกมาในการทำงานเป็นทีมและสามารถเลือกได้ว่าเราจะอัพเดตไปยัง Revision ไหน(เวอร์ชั่นไหน) โดยหลักๆ เราจะแบ่งโครงการออกเป็นสามส่วนคือ trunk branch และ tags โดยแต่ละส่วนจะมีการกำหนดดังนี้ Trunk เป็นส่วน Core ของโปรเจ็ค หรือเรียกง่ายๆ ว่าอะไรที่ Stable แล้วเราจะใส่ไว้ในส่วนนี้ Branch เป็นส่วนที่เป็น Feature ที่เราจะทำการเพิ่มเติมขึ้นมา ส่วนใหญ่เมื่อผ่านพ้นช่วงทดสอบต่างๆ และเป็นที่ยอมรับของทีมแล้ว เราก็จะนำเข้าไปไว้ใน Trunk Tags จะเป็นตัวแบ่งเวอร์ชั่นออกจากกันเช่นเมื่อเราออกเวอร์ชั่น Stable แล้วเราก็จะ copy มาใส่ไว้ใน Tags เพื่อที่จะได้มีหลายเวอร์ชั่นให้ผู้พัฒนาได้เลือก เริ่มการติดตั้ง SVN Server บน CentOS กันดีกว่าครับ ใช้เครื่องมือที่เราคุ้นเคยกันดี yum install httpd chkconfig httpd on ซึ่ง chkconfig จะทำให้ตัว httpd server เริ่มต้นอัตโนมัติเมื่อเริ่มระบบ หลังจากนั้นทำการแก้ไขไฟล์ httpd.conf vim /etc/httpd/conf/httpd.conf แก้ไขตามความต้องการหากต้องการเปลี่ยน Port ก็เปลี่ยนได้เลยครับ หลังจากนั้นทำการแก้ไขไฟล์ subversion.conf vim /etc/httpd/conf.d/subversion...

How to set Sun Java 6 as your jvm

เมื่อลง ubuntu 7.04 ครั้งแรกนั้นจะพบว่า jvm ที่ใช้ จะเป็นของ gnu ซึ่งทำงานช้ามาก เปิด eclipse ทีรอไปเกือบหลับหรือจะเปิด azureus โหลดบิตนั้นก็ช้าได้ใจจริงๆ คราวนี้เรามาดูวิธีการให้ ubuntu ของเราใช้ JVM ของ Sun กันครับ ขั้นแรกให้ติดตั้ง Sun Java 6 ก่อน sudo apt-get install sun-java6-jre หรือ sudo apt-get install sun-java6-jdk หลังจากนั้น ให้พิมพ์ sudo update-alternatives --config java (เครื่องหมาย - - สองตัวหน้า config นะครับ) เครื่องหมาย * คือ default ของระบบ ให้เลือก choice ให้เป็น /usr/lib/jvm/java-6-sun/jre/bin/java ประมาณนี้ (พิมพ์หมายเลขข้างหน้าลงไป) แล้วกด enter ไปครับ เป็นอันว่าหลังจากนี้ระบบจะใช้ JVM ของ Sun แทนของ GNU แล้วครับ

NTFS-3G

ตอนนี้สามารถเขียน file ลง บน NTFS file system ได้แล้วโดยโปรแกรม ntfs-3g ซึ่งเป็น version stable แล้ว ใน ubuntu ท่านสามารถใช้ synaptic ได้เลย หรือพิมพ์คำสั่ง sudo apt-get install ntfs-3g แล้วตามด้วย sudo apt-get install ntfs-config หลังจากนั้นทำการ mount partition ใหม่โดยโปรแกรม ntfs-config นั่นเอง sudo ntfs-config สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ NTFS-3G ที่มา: NTFS-3G

Wings3D cannot run in LinuxTLE 8.0 (Ubuntu 6.10)

i have a problem a few day ago that i need to run Wings3D in Linux TLE 8.0 but it run with a command line and close itselft immediately. i don't know why but i searched in google and i found that occurs because of libsdl-erlang all you have to do is install package libsdl-erlang the command is sudo apt-get install libsdl-erlang เมื่อหลายวันก่อนผมได้ลง Wings3D ไว้จะเอาไว้หัดสร้าง Model เล่นๆ ดู ปรากฎว่ามันรับบน LinuxTLE 8.0 ไม่ได้ เคยลองลงทีแล้วตอนใช้ Ubuntu 6.10 ก็รันไม่ได้เช่นเดียวกัน แต่ตอนนั้นคิดว่าเป็นปัญหาของตัวโปรแกรมเองเลยไม่ได้สนใจ แต่พอมาลงอีกใน LinuxTLE8.0 คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาแต่ปรากฎว่าเป็นเหมือนเดิมเลยลอง search จาก google ดูเลยไปเจอว่าต้องลง libsdl-erlang ตัวใหม่ เพราะว่าตัวเก่านั้นมีปัญหาไม่สามารถรันได้ วิธีแก้ก็ได้พิมพ์คำสั่งตามข้างบนได้เลยครับพอลงเสร็จเรียบร้อยก็จะสามารถใช้งานได้เลยทันที

Maya 8.5 on Linux TLE 8.0 (Ubuntu 6.10)

ผมได้ลองติดตั้ง Maya 8.5 ดูแต่ปรากฏว่าไฟล์ติดตั้งของ Maya นั้นเป็น .rpm ซึ่งเป็นตัว package ของ Fedora หรือทางฝั่ง Red Hat นั่นเอง แต่ก็ได้ไป หาจาก ubuntu forums ก็ได้เจอวิธีการติดตั้งของ Maya 7.0 ซึ่งเขียนขึ้นโดย szr4321 และได้ลองทำตามดูโดยขั้นแรกเราจะเป็นต้องมี csh alien ซึ่งสามารถติดตั้งผ่าน apt-get ได้เลย sudo apt-get csh alien หลังจากติดตั้ง csh เชลล์กับตัวแปลง package (alien)แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการ แปลง pakage จาก rpm เป็น deb โดยใช้คำสั่ง for i in *.rpm; do sudo alien -cv $i; done อาจใช้เวลานานสักครู่ โดยอาจจำเป็นต้องใส่ root password อีกทีหลังจาก แปลง package Maya แล้ว - -' ไม่รู้เครื่องผมช้าไปหรือเปล่า เมื่อได้ package ทั้งหมดที่แปลงมาเรียบร้อยแล้วก็ให้ติดตั้ง แต่ก่อนติดตั้งเราจำเป็นต้องสร้างลิงค์ก่อน โดยคำสั่ง sudo ln -s /usr/aw /aw สำหรับ Maya 8.5 เราต้องเพิ่มลิงค์นี้ต่อไปนี้เข้าไปด้วย sudo ln -s /usr/autodesk /autodesk เมื่อทำการเพิ่มลิงค์เสร็จแล้วก็ทำการติดตั้ง package โดยคำสั่ง sudo dpkg -i awcommon-server_x.x-x_i386.deb sudo dpkg -i awcommon_x.x-x_i386.deb sudo dpk...

มาใช้ OpenOffice.org กันเถอะ

OpenOffice สบันสนุน OpenDocument อย่างเต็มตัว สามารถใช้ไปได้ยาวนานไม่รู้จบ ปัญหาที่เราพบบ่อยคือพวกไฟล์ word เมื่อเราทำงานกัน คนละ version จะพบว่าไฟล์ไม่สามารถเปิดได้อย่างสมบูรณ์ OpenDocument ได้ออกแบบมาเพื่อสิ่งนี้เอง ไม่ว่าคุณจะใช้โปรแกรมอะไรก็สามารถเปิดไฟล์ตัวนี้ได้หากโปรแกรมนั้นสนับสนุน OpenDocument (*.ott, *.odt) และด้วยการออกแบบที่จะใช้ได้ยาวนานไปจนถึงรุ่นหลาน เหลน โหลนของคุณนี้เองทำให้คุณสบายใจได้ว่าถ้าชาติหน้าคุณยังเกิดมาในตระกูลเดิมคุณก็สามารถอ่าน เอกสารของคุณได้อยู่ อืมม... ดีจริงๆ เลยเนอะ ว่าแต่ OpenOffice ดีอย่างไร จะพูดไปแล้ว ทะเล ของเรานั้นเกิดมาพร้อมกับ StarOffice(แปลงชื่อมาเป็นปลาดาว) เลยเนี่ยไหนกลายมาเป็น OpenOffice ไปแล้วหว่า คงจะเนื่องมาจาก OpenOffice นั้นพัฒนาอย่างต่อเนื่องและกว้างขวางกว่ากระมัง แต่ไม่เป็นไรอย่างไรมันก็เป็น Opensource เหมือนกันอย่างจะเอามายำอย่างไรก็ได้ เพียงแต่... ยำอย่างไรหว่าโค้ดก็เขียนไม่เป็น ช่างมันละกัน เอาเป็นว่าใช้ได้เป็นพอไม่ต้องสนใจเรื่องพัฒนาขอให้เก่งๆ ก่อนละกันเนอะ พูดมาซะยาว ยังไม่ได้บอกเลยว่า OpenOffice ดีอย่างไร ถ้าคุณเคยไปดู Software ...

Linux TLE 8.0 Patong Edition (ไม่ใช่ปลาทองนะ)

ได้ฤกษออกมาสักพักนึงแล้วกับ Linux สัญชาติไทยตัวนี้ซึ่งการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงของ distro ตัวนี้คือการเปลี่ยนจาก fedora มาเป็น ubuntu ซึ่งขึ้นชื่อว่ามีคอมมิวนิตี้ที่ใหญ่มาก ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรสามารถไปค้นใน ubuntu forums ได้ ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่จะมีอยู่แล้วข้อให้ใช้เวลาค้นหากันสักนิด ส่วนหากปัญหาไหนยังไม่มีคนถามก็สามารถโพสไปถามได้และอาจมีคนตอบภายในเวลาไม่กี่นาทีหลังจากโพสก็ได้เนื่องจากจำนวนสมาชิกที่มากมายขนาดนี้นั่นเองเป็นสาเหตุทำให้ ubuntu โด่งดังมาได้จนทุกวันนี้ อยากให้ TLE เป็นแบบนั้นมั่งจัง ประเทศไทยจะได้มีความแข็งแกร่งในการต่อรองกับต่างชาติได้บ้าง

Uninstall Apache ที่ compile เองจาก source

จริงๆ แล้วมันสามารถทำได้หมดเลย ไฟล์ที่เป็น tar ball (.tar) แต่ว่าบางไฟล์ที่ compiled แล้วมัน จะมี makefile ที่มี uninstall rules มาด้วย เราเลยสามารถสั่งได้เลย sudo make uninstall แต่ถ้าบางอันมันไม่มีล่ะเราจะทำยังงัยดี เลยลองไป search มาปรากฏว่าเจอเว็บนี้ cyberciti.biz ลองเข้าไปดูโดยเค้าจะทำการเช็คก่อน install กับ หลัง install ก่อน install find /* > packagelist.b4 เพื่อเก็บรายชื่อโปรแกรมต่างๆ ก่อน install แล้วก็ทำการ install ./configure, make, make install etc. หลัง install find /* > packagelist.after เพื่อเก็บรายชื่อโปรแกรมต่างๆ ที่เรา install ไป + ของเดิม หลังจากนั้นใช้ diff tools ในการดูว่าไฟล์ที่เราลองไปอยู่ไหน โดยมันจะดูว่าไฟล์ไหนที่ต่างจากเดิมdiff packagelist.b4 packagelist.after > package.uninstall.list ไฟล์ package.uninstall.list จะเป็นไฟล์ที่เรา install ลงไปทั้งหมด เมื่อเราต้องการ uninstall มันก็เพียงใช้คำสั่งใน shell โดยใช้ shell script วนลูป for i in $(grep ">" package.uninstall.list | awk '{ print $2 }') do rm -i $i done เพียงเท่านี้เราก็จะ unin...

TricksterOnline on Linux

เมื่อวานลองลง trickster ใน linux ดู ปรากฏว่าลงได้ผ่านหมด แต่ sv มันยังไม่เปิดไม่รู้จะเล่นได้หรือเปล่า วิธีลงก็ใช้ wine ได้เลย แต่ตอนแรกต้องลง gecko engine ก่อน มันคืออะไร? มันเอาไว้ render หน้า webpage น่ะเอง มันเอามาใช้แทน mshtml น่ะ เพราะเราเล่นในลินุกซ์กันใช่มั้ย มันเลยใช้ gecko แทน แต่ตอนลงไปเรียบร้อยแล้ว จะมาดูว่ามันเล่นได้มั้ยโดยเริ่มโหลด patch ก่อน ปรากฏว่ามันดับไปเลย(บางคนอาจไม่เป็นนะ ถ้าใครเป็นแนะนำให้ไปเปิด wine iexplore http://seven5econds.blogspot.com ดู) :P รูปก่อนมันจะดับ เพราะมันไม่โหลด gecko engine เลยไม่รู้ทำไง เลยไปปรึกษากะ google กะ ubuntuforums.org และก็ได้ไปเจอกับฟอรั่มอันนี้ http://www.linux-gamers.net/modules/newbb/viewtopic.php?topic_id=2646&start=10 พออ่านไปงงอีก - -' แล้วเจออีกอัน http://appdb.winehq.org/appview.php?iVersionId=1554 บอกให้แก้ registry โดยพิมพ์ที่ shell ว่า wine regedit แล้วเปลี่ยนค่าของ register [HKEY_CURRENT_USER\Software\Wine\MSHTML] "GeckoUrl"="z:\tmp\wine_gecko.cab" โอเคเรียบร้อย ค่อยเก็ทหน่อย (ตามไปอ่านกันด้วยน...