ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

หมดหวังกับรายการทีวีในประเทศไทย

ไม่ได้เขียน Blog มานานสกิลด้านเขียนไม่รู้จะยังดีเหมือนเดิมมั้ยนะครับ (หัวข้อก็จะ clickbait  ตามแนว Content ยุคใหม่) จริงๆ แล้ว คิดจะเขียนมาตั้งนานแล้วแต่ไม่รู้จะเขียนอะไร พอดีวันนี้อ่านเจอโพสต์ของเพื่อนในเฟสบุ๊คที่แชร์มา หัวข้อประมาณว่า ประเทศไทยมีความพยายามทำให้คนโง่ลง

คือผมก็ติดตามข่าวมาเรื่อยๆ ช่วงไปอยู่จีนก็ยังติดตามอยู่ แต่มีความรู้สึกว่าข่าวของประเทศเรากับประเทศจีนนี่คือคนละขั้วเลย
ที่จีนข่าวส่วนใหญ่จะเป็นข่าวที่ค่อนข้างมีสาระ และไม่มีข่าวงมงาย น่าจะเนื่องมาจากกฎหมายของประเทศไทยที่ค่อนข้างคุมเข้มกับสื่อ

ย้อนกลับมาที่ไทย ประเทศเราไม่มีกฎหมายคุมเข้มสื่อเหมือนประเทศจีนขนาดนั้น สื่อประเทศเราค่อนข้างมีอิสระในการนำเสนอ แต่หลังๆ มานี่ผมเห็นแต่ข่าวอาชญากรรม หรือข่าวให้หวยซะส่วนใหญ่ ก็เข้าใจว่าต้องการยอดผู้ชม แต่การที่สื่อนำเสนอแบบนั้นนี่ไม่แน่ใจว่าจะดีต่ออนาคตประเทศชาติหรือไม่นะครับ คนดูข่าวเพื่อจะรอเลขเอาไปซื้อหวย ไม่แน่ใจว่าสนใจอะไรมากกว่าระหว่างหวยกับข่าว ตอนจะมีกฎหมายหวยออนไลน์ก็เห็นออกมาต่อต้านบอกมอมเมาประชาชน แต่สิ่งที่สื่อกำลังนำเสนออยู่นั้นมันย้อนแย้งในตัวเองชอบกล และประชากรส่วนใหญ่ก็น่าจะชอบ ผมไม่มีตัวเลขสถิติในส่วนนี้ แต่เข้าใจว่าช่องต่างๆ คงทำการสำรวจมาแล้ว ถึงได้เอาเรื่องเลขจากข่าวต่างๆ มาบอกผู้ชม

ข่าวอีกประเภทนึงคือข่าวคดีข่มขืนหรือข่าวฆาตกรรม อันนี้เห็นบ่อยจนคิดว่าประเทศเรามีแต่คดีฆาตกรรมหรือยังงัย หรือว่าโคนันหรือคินดะอิจิย้ายมาอยู่ในประเทศไทยแล้ว และรายงานกันยังกับจะทำเป็นสารคดี

นอกจากนี้ยังมีรายการอีกประเภทคือพวกร้องเพลงต่างๆ แล้วได้เงินกลับบ้าน อันนี้ผมไม่เข้าใจว่าคนที่เดือดร้อนเค้าจะได้ประโยชน์อะไรจากการร้องเพลงหลังจากเค้ามาออกรายการแล้ว ทำไมไม่ทำรายการให้เค้าเอาอาชีพที่เค้าอยากทำหรืออาชีพที่เค้าทำอยู่ แล้วแสดงความเป็นมืออาชีพของอาชีพที่เค้าทำอยู่แทน แล้วกรรมการก็ให้คะแนนในความเป็นมืออาชีพเหล่านั้นของผู้เข้าแข่งขันดีมั้ย ไม่แน่อาจจะมีนายจ้างหรือใครที่เดินแววแล้วจะจ้างเค้าทำงานในอนาคตก็ได้

ส่วนรายการพวกสารคดีแทบจะไม่ค่อยเห็นอยู่บนจอแล้ว หรือต่อให้มีก็อยู่ในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยมีคนดู รายการกระจกหกด้าน ทุ่งแสงตะวัน พวกนี้ดูเหมือนจะหายไปเช่นกัน

สรุปผมไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะคนดูไม่สนใจรายการเหล่านี้ ทางช่องถึงเอาออกจากผังไป แต่น่าเสียดายแทนรายการเหล่านั้นมาก อดห่วงกับอนาคตของไทยไม่ได้เลย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เปลี่ยนเว็บเดิมให้ Pluggable ด้วย OSGi

เป็นบทความภาษาอังกฤษครับลองอ่านดู เปลี่ยน Web application เดิมให้ยืดหยุ่นด้วย OSGi เพิ่มเติ่มให้ครับ OSGi คืออะไร เป็น Specification ครับที่เจ้าใหญ่ของ Java เค้าทำมาเพื่อให้เกิดความเป็น modularized ครับ ซึ่งถ้าจะให้เห็นภาพคือการทำงานของ plugin น่ะครับ ที่เราสามารถเปิดปิดการทำงานของมันได้ตลอดเวลาเมื่อเอามาใส่ web application ก็ทำให้เราสามารถถอดหรือเสียบ plugin ใหม่ๆ ได้ตลอดเวลา โดยที่ plugin นี้ใน OSGi จะเรียกว่า module ครับ หรือถ้าเป็นศัพท์เทคนิคเค้าจะเรียกว่า Bundle ครับ ลองไปอ่านบทความกันดูครับ ซึ่ง OSGi นั้นจริงๆ แล้วมันเป็น Specification เหมือนกับ EJB หรือ Servlet นี่แหละครับ แต่ตัว implement นั้นแล้วแต่ว่าใครจะนำไป implement นะครับ ที่ดังๆ อยู่ในตอนนี้ก็เห็นมีอยู่สองสามเจ้า Equinox อันนี้หลายๆ คนคงจะคุ้นเคยกันดีมันคือเจ้า eclipse ของเรานั่นเองใช้ตัวนี้อยู่ครับ ส่วนอีกตัวเป็นของ Apache Felix ครับ ลักษณะการใช้งานจะแตกต่างกันบาง และตัว module อาจจะเรียกไม่เหมือนกันบางอันเป็น Bundle บางอันอาจไม่ใช่ ผมก็จำไม่ได้แล้วเหมือนกันครับ ลองไปศึกษากันดูครับ น่าสนใจทีเดียว อีกตัวนั้นจะเป็นของ Sp...

Standalone MySQL setup

Currently I am learning Spring Boot. I follow some tutorials but there is a part requires to use DBMS. So I decide to use MySQL as a database. But I don't want to install it as as service neither install with Windows installer. I decide to download an archive version to run it as standalone application. I expect it will be ready to use as the installer version but it is not as easy as I think. The first thing you have to do after extract the archive file is to copy my-default.ini to my.ini Open my.ini with notepad or text editor that you like, edit these lines as show below basedir = X:/<pat to your mysql folderh>/mysql-5.7.9-winx64 datadir = X:/<pat to your mysql folderh>/mysql-5.7.9-winx64/data Important!  Don't forget to create the folder data to the path they you refer in datadir  Second you have to mysql bin directory and then input the following command in command prompt mysqld --initialize --console --console is optional to see the verbose in...