ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Maya 8.5 on Linux TLE 8.0 (Ubuntu 6.10)

ผมได้ลองติดตั้ง Maya 8.5 ดูแต่ปรากฏว่าไฟล์ติดตั้งของ Maya นั้นเป็น .rpm ซึ่งเป็นตัว package ของ Fedora หรือทางฝั่ง Red Hat นั่นเอง แต่ก็ได้ไป หาจาก ubuntu forums ก็ได้เจอวิธีการติดตั้งของ Maya 7.0 ซึ่งเขียนขึ้นโดย szr4321 และได้ลองทำตามดูโดยขั้นแรกเราจะเป็นต้องมี
  1. csh
  2. alien
ซึ่งสามารถติดตั้งผ่าน apt-get ได้เลย
sudo apt-get csh alien
หลังจากติดตั้ง csh เชลล์กับตัวแปลง package (alien)แล้ว
ขั้นตอนต่อไปคือการ แปลง pakage จาก rpm เป็น deb โดยใช้คำสั่ง
for i in *.rpm; do sudo alien -cv $i; done
อาจใช้เวลานานสักครู่ โดยอาจจำเป็นต้องใส่ root password อีกทีหลังจาก แปลง package Maya แล้ว - -' ไม่รู้เครื่องผมช้าไปหรือเปล่า


เมื่อได้ package ทั้งหมดที่แปลงมาเรียบร้อยแล้วก็ให้ติดตั้ง แต่ก่อนติดตั้งเราจำเป็นต้องสร้างลิงค์ก่อน โดยคำสั่ง
sudo ln -s /usr/aw /aw

สำหรับ Maya 8.5 เราต้องเพิ่มลิงค์นี้ต่อไปนี้เข้าไปด้วย

sudo ln -s /usr/autodesk /autodesk
เมื่อทำการเพิ่มลิงค์เสร็จแล้วก็ทำการติดตั้ง package โดยคำสั่ง
sudo dpkg -i awcommon-server_x.x-x_i386.deb
sudo dpkg -i awcommon_x.x-x_i386.deb
sudo dpkg -i mayax-x_x.x-xxx_i386.deb
**x แทนเลข version ครับ
หรือสามารถติดตั้งโดย double click file เอาก็ได้ครับมันจะเรียกตัวติดตั้งขึ้นมาให้เอง
เสร็จแล้วให้นำไฟล์ aw.dat ไปไว้ใน directory /var/flexlm ถ้า error อะไรให้เปลี่ยน permission เป็น 777 ด้วยครับ แล้วอีกที่รู้สึกจะ error ที่ /usr/tmp น่ะครับ ให้เปลี่ยน permission ของ /usr/tmp เป็น 777 ด้วย โดยคำสั่ง
sudo chmod 777 /usr/tmp
ส่วนคำสั่งที่ copy aw.dat ก็
sudo cp aw.dat /var/flexlm
ก็เป็นอันเรียบร้อยแล้วสำหรับโปรแกรม Maya 8.5 บน LinuxTLE 8.0
ถ้าต้องการใช้งานก็สามารถไปเลือกที่คำสั่งของ menu ได้ที่ รูปภาพ แล้วเลือก Autodesk Maya 8.5 ครับ
หรือทาง command line
maya
ส่วนใครที่ error "Can't Find libXp.so.6" ก็ให้ติดตั้ง libxp6 เพิ่มเติมเข้ามาด้วยครับ แต่ TLE 8.0 มันมีอยู่แล้วครับ ไม่จำเป็นต้องติดตั้งอีก แต่ถ้าขึ้น error ก็ติดตั้งโดยคำสั่ง
apt-get install libxp6
ส่วนการติดตั้ง document server ของ maya ผมไม่ได้ติดตั้งครับ เพราะว่าไม่ค่อยได้ใช้ แปลไม่ค่อยจะออก แต่ถ้าใครอยากติดตั้งสามารถเข้าไปดูได้ที่นี่ครับ

อ้อ มีอีกเรื่องคืด Gnome นั้นเวลาผิดโปรแกรม Maya ไปแล้วมันจะทำให้ cursor เป็นเครื่องหมาย X ตลอด สามารถแก้ได้โดยใช้คำสั่ง
export MAYA_MMSET_DEFAULT_XCURSOR=1 ; maya
หรือเอาคำสั่งต่อไปนี้ไปไว้ในไฟล์ $HOME/.bashrc จะได้ไม่ต้องพิมพ์คำสั่งข้างบนทุกครั้ง
export MAYA_MMSET_DEFAULT_XCURSOR=1
เท่านี้เวลาปิดโปรแกรม Maya บน Gnome Cursor จะไม่เป็นรูป X อีกต่อไปครับ ส่วน KDE นั้นรู้สึกจะไม่มีปัญหาครับ

ที่มา: Ubuntu Forums

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หมดหวังกับรายการทีวีในประเทศไทย

ไม่ได้เขียน Blog มานานสกิลด้านเขียนไม่รู้จะยังดีเหมือนเดิมมั้ยนะครับ (หัวข้อก็จะ clickbait  ตามแนว Content ยุคใหม่) จริงๆ แล้ว คิดจะเขียนมาตั้งนานแล้วแต่ไม่รู้จะเขียนอะไร พอดีวันนี้อ่านเจอโพสต์ของเพื่อนในเฟสบุ๊คที่แชร์มา หัวข้อประมาณว่า ประเทศไทยมีความพยายามทำให้คนโง่ลง คือผมก็ติดตามข่าวมาเรื่อยๆ ช่วงไปอยู่จีนก็ยังติดตามอยู่ แต่มีความรู้สึกว่าข่าวของประเทศเรากับประเทศจีนนี่คือคนละขั้วเลย ที่จีนข่าวส่วนใหญ่จะเป็นข่าวที่ค่อนข้างมีสาระ และไม่มีข่าวงมงาย น่าจะเนื่องมาจากกฎหมายของประเทศไทยที่ค่อนข้างคุมเข้มกับสื่อ ย้อนกลับมาที่ไทย ประเทศเราไม่มีกฎหมายคุมเข้มสื่อเหมือนประเทศจีนขนาดนั้น สื่อประเทศเราค่อนข้างมีอิสระในการนำเสนอ แต่หลังๆ มานี่ผมเห็นแต่ข่าวอาชญากรรม หรือข่าวให้หวยซะส่วนใหญ่ ก็เข้าใจว่าต้องการยอดผู้ชม แต่การที่สื่อนำเสนอแบบนั้นนี่ไม่แน่ใจว่าจะดีต่ออนาคตประเทศชาติหรือไม่นะครับ คนดูข่าวเพื่อจะรอเลขเอาไปซื้อหวย ไม่แน่ใจว่าสนใจอะไรมากกว่าระหว่างหวยกับข่าว ตอนจะมีกฎหมายหวยออนไลน์ก็เห็นออกมาต่อต้านบอกมอมเมาประชาชน แต่สิ่งที่สื่อกำลังนำเสนออยู่นั้นมันย้อนแย้งในตัวเองชอบกล...

Alfresco from source

การติดตั้ง Alfresco นั้นมีหลายวิธีด้วยกัน ผมขอแยกเป็นสามกรณีดังนี้ ติดตั้งจากตัว Installer ซึ่งวิธีนี้ถือว่าสะดวกที่สุดครับ เนื่องจากตัว Alfresco นั้นเตรียมเครื่องมือที่จำเป็นไว้ให้เกือบหมดแล้ว (บน Windows นี่ถือว่าพร้อมกับการทำงานทีเดียว ส่วนบน Unix จะต้องติดตั้ง MySQL ,Swf2PDF ImageMagick และ OOo - OpenOffice เองครับ เนื่องจากไม่สามารถรันได้แบบวินโดว์) ติดตั้งจากตัว Compiled Binary ซึ่งจะเป็นไฟล์ zip หรือ tarball ตามแต่ระบบปฏิบัติการ วิธีสุดท้ายเป็นวิธีที่ผมจะนำเสนอในตอนนี้คือการ Compile Source จาก SVN ครับ สองวิธีสุดท้ายนี้เราจำเป็นต้องหาพวก binary ของ third party มาลงเอง (แต่สำหรับ linux ไม่ว่าจะวิธีไหนเราก็ต้องหามาลงเองครับ) เราสามารถ Check out Source จาก repository จาก Alfresco ได้หลายวิธีไม่ว่าจะ Check out จาก Eclipse โดยผ่าน Subclipse หรือ Netbeans หรือแม้กระทั่ง SVN command line ก็สามารถทำได้ ในที่นี้ผมจะขอเลือกใช้แบบ Command line ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกที่สุด เพราะมีมาให้กับ linux อยู่แล้วหรือหากใครใช้ Windows อยู่ ผมขอแนะนำให้ติดตั้ง SlikSVN 1.5.x เนื่องจากขั้นตอน build นั้นจำ...

Alfresco กับ XForm

XForm นั้นเป็น Specification ที่น่าจะกลายเป็นมาตรฐานในอนาคตเนื่องจากเว็บต่างจำเป็นต้องใช้ Form ในการติดต่อกับผู้ใช้เป็นส่วนใหญ่ ส่วนตัว implement นั้นมีหลายตัวด้วยกันไว้ผมจะเอามาบอกในบทความต่อๆ ไป แต่คราวนี้เรามาดูใน Alfresco กันครับ ใน Version 3.2 นั้น Alfresco ได้เลือก Chiba ในเป็น Engine ในการจัดการกับ XForm ครับ แต่ก็นั่นแหละครับทำให้เราจำเป็นต้องลง virtual tomcat สำหรับรัน WCM (virtual tomcat คือ tomcat อีกตัวไว้สำหรับทำหน้าที่ติดต่อกับ user โดยทั่วไป หรือเรียกว่าเอาไว้เป็นหน้าด่านว่าเอกสารอะไรที่เราต้องการเผยแพร่เราก็สามารถ publish ไปยัง WCM ได้) ตอนนี้ orbeon (เป็น XForm engine อีกตัว) สามารถทำการเชื่อมต่อกับ Alfresco ได้แล้วต่อไปถ้าเราจะสร้าง XForm คงง่ายขึ้นเป็นกองเพราะ orbeon เป็น XForm server ที่ไว้สร้าง Form แบบ virtual เลย(ลากแปะๆ แนะนำให้ลองเข้าไปเล่น demo ของ orbeon ดูครับ น่าเล่นมาก) แต่ตัวนี้ผมยังไม่ได้ลองทำดูนะครับ พอดีค้นหาเจอเลยนำมาลง blog ไว้ก่อน ไว้ถ้าทดสอบแล้วได้ความว่าอย่างไรจะมารายงานอีกรอบ